LOGO

Blog

Blog

Affordable Luxury

< Home
Aug 05

Paradigm Shift บริษัทที่ทำให้การออกแบบร้านอาหารเป็นงานฝีมือ

เทรนด์ของงานตกแต่งภายในที่สร้างความโดดเด่นชนิดที่ว่าเรียกความสนใจได้มากที่สุดในยุคนี้อาจต้องยกให้หมวด restaurant & café ไม่เพียงแต่ตลาดนี้กำลังบูมชนิดที่ว่ามีผลงานไอเดียเจ๋งผุดขึ้นทั่วโลกมากมายแบบรายวัน การมอบรางวัลด้านการออกแบบในหมวดนี้ก็เริ่มแตกสายเฉพาะและแยกเป็นเวทีของตัวเอง นั่นทำให้บริษัทอินทีเรียร์ดีไซน์ทั่วโลกต่างสร้างเอกลักษณ์ของตัวเองและเติบโตไม่แพ้บริษัทสถาปนิกเลยทีเดียว รวมถึงในเมืองไทยเองซึ่งเริ่มมีดาวเด่นทางด้านอินทีเรียร์ดีไซน์สาย restaurant & café ที่สร้างความเฉพาะตัวในงานออกแบบขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจทีเดียว

และบริษัทแรกๆ ในไทยที่เรานึกถึงเมื่อพูดถึงงานสายนี้ที่มีความเฉพาะตัวก็คือ Paradigm Shift สตูดิโอออกแบบตกแต่งภายในขนาดเล็กซึ่งเกิดจากการรวมตัวของนักออกแบบรุ่นใหม่ที่เป็นเพื่อนต่างสถาบันกันตั้งแต่ปี 2559

ถึงแม้ว่าตัวบริษัทเองจะรับงานอินทีเรียร์แทบทุกประเภท แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผลงานที่โดดเด่นจนกลายเป็นซิกเนเจอร์ของบริษัทก็คือการออกแบบตกแต่งภายในในหมวด restaurant & café นั่นเอง ผลงานของพวกเขาไม่เพียงเป็นที่พูดถึงในสื่อทั้งในและนอกประเทศเท่านั้น ยังก้าวไปอีกขั้นจนถึงเวทีประกวดออกแบบในระดับสากลอีกด้วย การได้รับคัดเลือกในระดับนานาชาตินอกจากจะทำให้ทุกคนรู้จักฝีมือของ Paradigm Shift มากขึ้น ยังช่วยยกระดับแวดวงออกแบบตกแต่งภายในของไทยให้ก้าวขึ้นสู่แถวหน้าในระดับสากลด้วย

ร้านที่หลายคนจดจำได้มักเป็นร้านที่มีเรื่องราวอยู่เบื้องหลังเสมอ เช่นเดียวกับทุกผลงานของ Paradigm Shift ที่จะแฝงเรื่องเล่าผ่านงานออกแบบได้น่าสนใจตั้งแต่แรกเห็น
Paradigm Shift: คนทำร้านอาหารทุกคนอยากเล่าเรื่อง ทุกคนมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง เราจะนั่งคุยกันว่าแต่ละที่อยากจะเล่าอะไรออกมา หรือมีอะไรที่น่าเล่าบ้าง จากนั้นเราก็จะพัฒนาออกมาเป็นคอนเซปต์ดีไซน์ เพื่อถ่ายทอดเรื่องเล่าให้สัมผัสได้จริง พองานออกแบบตกแต่งภายในทำออกมาเสร็จ มันจะรับรู้ได้ทันทีว่าร้านนี้มีเรื่องเล่า เล่าเรื่องอะไร และมันทำให้ทุกคนอยากตามเข้ามาฟังเรื่องราว
เรื่องราวมันทำให้งานออกแบบมีคุณค่ามากขึ้น วัสดุไม่ใช่การตกแต่งอย่างเดียว แต่ช่วยเล่าเรื่องได้ แล้วงานอินทีเรียร์ก็ทำให้ร้านมีคุณค่ามากขึ้นด้วย เพราะปัจจุบันคนที่มาร้านอาหาร คาเฟ่ หรือบาร์ เขาไม่ได้มาเสพอาหารหรือเครื่องดื่มอย่างเดียว แต่เขาก็อยากเสพเรื่องราวที่อยู่ในสถานที่นั้นด้วย

นอกจากความสวยงามที่สัมผัสได้ตั้งแต่แรกเห็นแล้ว รายละเอียดและความประณีตที่กระจายอยู่ทุกอณูในงานของ Paradigm Shift ยังเป็นสิ่งที่ซ่อนเรื่องราวเอาไว้ ซึ่งช่วยสร้างความโดดเด่นและแตกต่างในกับแต่ละงาน
Paradigm Shift: ถ้าถามถึงซิกเนเจอร์หรือเอกลักษณ์เฉพาะตัวในงานออกแบบของเราคงไม่ใช่สไตล์ของงานแต่น่าจะเป็นสไตล์ของการทำงานมากกว่า คือเป็นสไตล์ที่ใส่ใจในรายละเอียดทุกจุด ตั้งแต่เรื่องคอนเซ็ปต์ไปจนถึงเรื่องของการเลือกใช้วัสดุ เราจะไม่มาแนวมินิมอล เรียบๆ คลีนๆ การตกแต่งทุกส่วนจะมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ แถมวัสดุหลายๆ อย่างอาจเป็นงานคราฟต์ที่ทำขึ้นเฉพาะเป็นงานๆ ไป ให้มีความหมายและเล่าเรื่องของแต่ละที่ไม่เหมือนกัน และการใส่ใจในรายละเอียดนี่แหละที่จะทำให้แต่ละร้านแตกต่างกัน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แค่เห็นรูปก็จำได้ว่าร้านไหน ขณะเดียวกันมันก็จะเป็นซิกเนเจอร์ให้กับการออกแบบของเราไปพร้อมกันด้วย
วัสดุที่พวกเราชอบใช้ก็คืออิฐ ไม้ และเหล็ก วัสดุกลุ่มนี้มันค่อนข้างอยู่ได้นาน คำว่า อยู่ได้นาน ในที่นี้หมายถึงทั้งเรื่องอายุการใช้งานและความร่วมสมัย ไม่มีความเชย ดูดีได้ทุกยุค เข้าได้กับทุกสไตล์ วัสดุสามารถปรับให้เข้ากับอะไรก็ได้ สร้างสรรค์ได้อิสระ รวมไปถึงเรื่องของสีธรรมชาติของตัววัสดุที่มีคุณสมบัติ timeless คือเป็นสีที่ไร้กาลเวลา จะมองเป็นใหม่ก็ได้ เก่าก็ได้ เก๋ก็ได้ โบราณก็ได้
ส่วนวัสดุที่เราคิดว่ากำลังมาแรงในช่วงนี้ก็คือสเตนเลส มันให้ความรู้สึกเหมือนเหล็ก แต่ความวาวของพื้นผิวทำให้ดูโมเดิร์น แล้วเทรนด์ที่ลงดีเทลลึกลงไปอีกก็คือการนำผ้าที่มีสีสันหรือหนังเข้ามาเป็นลูกเล่นกับวัสดุ ทำให้งานออกแบบตกแต่งภายในสนุกขึ้น ให้อารมณ์ใกล้เคียงงานคราฟต์หรืองานฝีมือ ลดความแข็งของความรู้สึกแบบงานสถาปัตยกรรมลงได้ ซึ่งปัจจุบันงานออกแบบตกแต่งภายในไม่ใช่แค่การเอาแค่เฟอร์นิเจอร์มาจัดวาง แต่เป็นการเล่นสนุกกับวัสดุเพื่อให้เกิดมิติต่างๆ ที่น่าสนใจยิ่งขึ้น ซึ่งเราก็กำลังสนุกกับการทดลองสร้างสรรค์วัสดุใหม่ๆ เช่นกัน

ผลงานโดดเด่นที่สร้างชื่อให้กับ Paradigm Shift มากที่สุดนั้นคงต้องยกให้กับบาร์ดังย่านทองหล่ออย่าง Rabbit Hole ซึ่งโพรงกระต่ายเจ้าสำราญนี้นอกจากจะมีการแต่งร้านในสไตล์ดิบแต่เท่ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวแล้ว มันยังกระโดดไปชิงรางวัลในเวทีระดับสากลอีกด้วย ด้วยการติดโผไฟนอลลิสต์ของเวทีดังระดับโลกฝั่งอังกฤษอย่าง Restaurant & Bar Design Awards รวมไปถึงการเข้ารอบสุดท้ายของเวที INSIDE World Festival of Interiors 2016 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเวทีดังฝั่งเยอรมนี
อีกงานที่ถือว่าเป็นมาสเตอร์พีซก็คือ Water Library Brasserie ที่เซ็นทรัลเอ็มบาสซี ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบร้านอาหารฝรั่งเศสที่มีรายละเอียดโดดเด่นไม่เหมือนใคร ที่สำคัญมันยังเป็นผลงานแรกสุดของบริษัท รวมถึงเป็นผลงานที่พวกเขารักตลอดกาลด้วย
Paradigm Shift: งานที่ทำให้หลายคนรู้จักเรามากขึ้นก็น่าจะเป็น Rabbit Hole เพราะเป็นผลงานที่ได้เข้าชิงรางวัลออกแบบตกแต่งภายในในเวทีระดับสากล จุดเด่นของงานนี้ก็คือเรื่องของสเปซดีไซน์ที่มีการบริหารจัดการพื้นที่รวมถึงการออกแบบที่ดี บาร์นี้มีขนาดเพียงห้องแถวเดียว หน้าแคบแต่ลึก เพดานสูง เราเลยใช้ทุกพื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุด
เราเปรียบโพรงกระต่ายเป็นเหมือนรังสัตว์แล้วตีความออกมาเป็นรังโจรแบบดิบๆ เท่ๆ ในเมื่อเป็นรังโจรก็น่าจะมีการเก็บสมบัติ เราก็เลยตีความออกมาเป็นผนังลิ้นชักที่สื่อถึงที่ซ่อนสมบัติ ตัวลิ้นชักทำด้วยสเตนเลสให้มันดูเป็นรังโจรที่ไม่ใช่โจรกิ๊กก๊อก มีสไตล์ มีระดับ อีกรายละเอียดที่น่าสนใจที่เราใช้เล่าเรื่องราวของโพรงกระต่ายนี้ก็คือการเอากระจกมาเล่นในการตกแต่ง โดยเรื่องราวที่เล่านั้นอยู่ในลวดลายของกระจก ซึ่งเราจะปรินต์ลายป่าลงไปบนกระจก ให้เล่าเรื่องโพรงของกระต่ายที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าทึบ เป็นสถานที่เร้นลับที่ซ่อนความน่าสนใจเอาไว้
ส่วน Water Library Brasserie ถือเป็นงานแรกของ Paradigm Shift แล้วก็เป็นงานแรกที่เราได้ออกแบบให้กับเครือ Water Library ด้วย ซึ่งหลังจากนั้นเราก็ทำให้เขาอีกหลายสาขา การทำงานกับ Water Library คือความสนุก สนุกตั้งแต่การหาดีไซน์คอนเซ็ปต์ ไปจนถึงการลงรายละเอียดในการออกแบบเลย เป็นงานที่ทำให้เราได้ระเบิดไอเดียเต็มที่ ใส่ดีเทลกันทุกเม็ด
จากโจทย์ที่เป็นร้านอาหารฝรั่งเศส เราพัฒนาไอเดียต่อมาให้กลายเป็นคอนเซ็ปต์ a mystery of Paris and the ancient library ร้านอาหารฝรั่งเศสใต้หอไอเฟล ทีนี้เราก็มาคิดกันว่าจะเล่ายังไงดีให้ทุกคนเห็นภาพได้ชัดเจน เราก็เลยคิดว่าจะถอดแบบโครงสร้างของหอไอเฟลมาเลย เป็นการถอดแบบสเกล 1:1 เท่ากับของจริง และเก็บทุกรายละเอียดให้เหมือนต้นฉบับ เราเอาเสี้ยวส่วนโค้งมาที่คนเห็นแวบแรกแล้วเข้าใจทันทีว่าเป็นหอไอเฟลมาทำเป็น façade ร้านเลย เพื่อสื่อถึงการอยู่ใต้หอไอเฟลแบบเข้าใจได้ง่ายด้วย ส่วนเรื่องวัสดุ เราใช้ไม้ซึ่งมีน้ำหนักเบา มาทำสีและตกแต่งรายละเอียดให้เหมือนเหล็ก เพื่อให้มีความรู้สึกเหมือนหอไอเฟลต้นฉบับให้มากที่สุด ทำงานนี้ออกมาเสร็จแล้วพวกเราชอบกันมาก ใครเห็นใครก็ชอบ นอกจากสะดุดตาแล้วมันยังถ่ายทอดคอนเซ็ปต์ได้ชัดเจนมาก
นอกจากนี้เฟอร์นิเจอร์ในร้านทุกชิ้นก็ทำขึ้นใหม่หมด เพื่อให้มีความเฉพาะตัว รวมถึงรายละเอียดการตกแต่งร้านอื่นๆ ที่จะเน้นงานทองเหลือง เพื่อให้ธีมหอไอเฟลออกมาชัดเจนที่สุด ส่วนอีกรายละเอียดที่สำคัญที่ถือว่าเป็นแก่นไอเดียของเครือ Water Library เลยก็คือคำว่า library เราก็เลยเอาคอนเซ็ปต์ความเป็นห้องสมุดสไตล์ยุโรปเข้ามาผสมผสานกันด้วยให้ลงตัวเพื่อสะท้อนความเป็นแบรนด์ร้านให้ชัดเจนขึ้น

จากการรวมตัวกันเมื่อไม่กี่ปีก่อน จนถึงปัจจุบันที่ Paradigm Shift กลายเป็นหนึ่งในบริษัทออกแบบตกแต่งภายในแถวหน้าของเมืองไทยที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบร้านอาหารและบาร์ สิ่งที่น่าเรียนรู้จากพวกเขาก็คือ อะไรคือหัวใจสำคัญที่ควรคำนึงถึงที่สุดในงานออกแบบประเภทนี้
Paradigm Shift: หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องของคอนเซ็ปต์ แต่หัวใจสำคัญจริงๆ ของการออกแบบร้านอาหาร บาร์ หรือคาเฟ่นั้น ต้องย้อนกลับไปตรงจุดเริ่มต้นซึ่งก็คือเรื่องฟังก์ชันก่อน อันที่จริงการออกแบบประเภทนี้มันมีจุดประสงค์ของการใช้งานชัดเจนตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ส่วนดีไซน์คอนเซ็ปต์ที่ออกมาเจ๋งๆ นั้นเป็นเรื่องที่มาทีหลัง
ฟังก์ชันอันดับแรกสุดที่เราจะถามผู้ที่จ้างงานเราเลยก็คือเรื่องจำนวนที่นั่งและรูปแบบร้านที่ต้องการ เช่น อยากเป็นไฟน์ไดนิงแบบมีโต๊ะนั่งอย่างเดียว หรืออยากมีบาร์ผสมด้วย หรือจะเป็นบาร์อย่างเดียว หรือเพิ่มห้องส่วนตัวเข้าไปอีก เป็นต้น ส่วนนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นที่สำคัญของการออกแบบ ตั้งแต่การจัดสัดส่วนของร้าน การจัดสรรพื้นที่ ไปจนถึงการตกแต่งภายใน พอเราจัดการเรื่องฟังก์ชันต่างๆ กันเรียบร้อยแล้วถึงจะเข้าสู่ขั้นตอนของการทำงานดีไซน์คอนเซปต์
หน้าที่ของเราก็คือการผสานงานดีไซน์กับฟังก์ชันให้เข้ากันได้อย่างลงตัวที่สุด
ดูรายละเอียดผลงานอื่นๆ ของ Paradigm Shift เพิ่มเติมได้ที่ http://paradigmshiftstudio.squarespace.com/

< กลับหน้าหลัก