LOGO

Blog

Blog

Affordable Luxury

< Home
Oct 22

เรื่องพื้นๆ เกี่ยวกับพื้นและงานฮาร์ดสเคป

       สำหรับการตกแต่งพื้นที่นอกอาคาร (Landscape) มีหลายรายละเอียดที่จำเป็นต้องใส่ใจไม่แพ้กับการตกแต่งภายในและงานโครงสร้างเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปรับโครงสร้างพื้นที่ การกำหนดระยะพื้นที่ งานระบบประปาและรดน้ำต้นไม้ ไปจนถึงการปูพื้นหรืองานฮาร์ดสเคป

การปรับระดับพื้น

       สำหรับงานฮาร์ดสเคปแล้ว การปรับระดับพื้นถือเป็นสิ่งแรกที่ควรต้องทำหลังจากออกแบบสวน เนื่องจากส่งผลโดยตรงต่อระดับความสูงต่ำของพื้นที่ การวางฟังก์ชันของเนินเดิน ตลิ่งริมน้ำ หรือทางระบายน้ำ โดยไม่ควรออกแบบให้มีทางลาดสูงชันมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความแคบ เนื่องจากเสี่ยงต่อดินพังทลายจากการกัดเซาะของน้ำฝน อีกทั้งยังตัดแต่งดูแลรักษายาก
แต่สำหรับพื้นที่ที่ต่ำและมีโอกาสเกิดน้ำท่วม ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการถมดินเสมอไป แต่อาจปรับระดับดินด้วยการขุดดินในบริเวณหนึ่งเพื่อให้เป็นพื้นที่รับน้ำแทน วิธีน้ำจะไม่ต้องเสียค่าดินในการถมและช่วยแก้ปัญหาในระยะยาวได้

การกำหนดระยะพื้นที่

       แน่นอนว่าเรื่องของสเกลนั้นจำเป็นอย่างมากในงานสถาปัตยกรรม ควรปรับให้เหมาะสมกับ Human scale เช่น ทางเดินควรมีพื้นที่กว้างพอสำหรับคนเดินและรถเข็น เพื่อให้กว้างสำหรับเดินและไม่เบียดไปทำลายต้นไม้ข้างทาง สำหรับงานตกแต่งภายนอกที่มีการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ ควรออกแบบให้มีความสูง 45-50 เซนติเมตร ลึก 40-60 เซนติเมตร เพื่อให้มีระยะพอดีสำหรับการนั่ง

งานประปาและรดน้ำต้นไม้

        วิธีที่นิยมที่สุดสำหรับงานประปาในพื้นที่ที่กว้างคือการติดตั้งสปริงเกอร์ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ได้แก่
  • ใช้ท่อพีอีเชื่อมต่อกันและเดินท่อให้เกาะไปกับแนวรั้วรอบสวน หรือฝังลงดินลึกประมาณ 20-30 เซนติเมตร เพื่อกระจายน้ำให้ทั่วถึงรอบสวน
  • ใช้ตัวควบคุมหรือคอลโทรลเลอร์ เป็นอุปกรณ์สำหรับตั้งเวลาในการรดน้ำ โดยเชื่อมต่อกับจุดจ่ายน้ำโดยตรง
  • ใช้ปั๊มน้ำและแทงก์สำรองน้ำ ซึ่งส่วนมากนิยมใช้แทงก์น้ำที่แยกออกมาจากแทงก์น้ำประปาในบ้าน สำหรับบ้านที่มีพื้นที่ 100 ตารางวาขึ้นไป ควรมีถังสำรองน้ำที่มีความจุ 1,000 ลิตร และปั๊มควรมีแรงดันที่เหมาะสม

งานปูพื้นทางเดินและงานฮาร์ดสเคป

         พื้นทางเดินบริเวณภาพนอกที่นิยมปูสำหรับการใช้งานทั่วไป สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบหลัก ๆ ได้แก่
  • การปูพื้นวางไปกับพื้นดินสำหรับพื้นที่ที่รับน้ำหนักน้อย โดยเซาะผิวดินให้มีความหนาและมีขนาดความกว้างตามแผ่นทางเดินที่ต้องการปู โดยส่วนใหญ่จะมีความลึกประมาณ 5 เซนติเมตร จากนั้นรองพื้นโดยการเททรายหยาบหนา 2-3 เซนติเมตร เพื่อปรับระดับ แล้วจึงนำแผ่นทางเดินมาปูทับ เคาะเบาๆ ให้กระเบี้ยงเรียบไปกับผิวดิน ไม่ให้เอียงทรุดไปด้านใดด้านหนึ่ง
  • การปูพื้นสำหรับพื้นที่ที่รับน้ำหนักมาก นิยมรองรับด้วยแผ่นคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยเตรียมพื้นที่ดินด้วยบดอัดแน่น จากนั้นทำพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กหนา 10 เซนติเมตร เสริมด้วยเหล็กเส้นกลมที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 9 มิลลิเมตร ผูกเป็นตะแกรงขนาด 15×15 เซนติเมตร แล้วจึงนำแผ่นปูพื้นมาวางทับ
          สำหรับแผ่นปูพื้นในงานตกแต่งภายนอกและงานฮาร์ดสเคปในคอลเลกชัน Outdoor Anti-slip จาก Elegant Decor มีวัสดุปูพื้นให้เลือกหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น วัสดุทดแทนหิน Turkey Grey, Quartz, Lime Stone, Neo Lime, Sandstone, Granite, Slat Stone หรือ African Garnite เพื่อเนรมิตงานตกแต่งภายนอกให้ได้ความสวยงามที่ยกระดับมากกว่าเดิม รวมไปถึงสร้างบรรยากาศของการตกแต่งที่แตกต่างจากวัสดุอื่น ๆ
< กลับหน้าหลัก